วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561

น้ำมันมะพร้าว


                                          


                                  ที่นี่เพื่อสั่งสินค้าสั่งสินค้า



สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวที่มีต่อสุขภาพ 

          มาดูกันว่าในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนั้นแฝงไว้ด้วยประโยชน์สุขภา­พในเรื่องใดบ้าง 

 1. กินแล้วไม่อ้วน 

          น้ำมันมะพร้าวให้พลังงานน้อยกว่าน้ำมันชนิดอื่น นั่นคือ 8.6 กิโลแคลอรีต่อกรัม ในขณะที่น้ำมันชนิดอื่นให้พลังงานถึง 9 กิโลแคลอรีต่อกรัม มีกรดไขมันอิ่มตัวที่ไม่ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและไขมันทรานส์ น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมนานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้อาหารหรือปริมาณแคลอรีถูกนำไปเผาผลาญมากขึ้น ไม่เหลือเป็นแคลอรีส่วนเกิน ที่จะถูกสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน 

 2. กระตุ้นการขับถ่าย 

          น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวสายปานกลาง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ใหญ่ จึงช่วยกระตุ้นการขับถ่าย สำหรับคนที่กินน้ำมันมะพร้าวในระยะแรกอาจมีอาการท้องเสีย ถือว่าเป็นอาการปกติ แต่ถ้าหากกินไปสักระยะแล้วยังมีอาการท้องเสียอยู่ ควรหยุดทาน เพราะน้ำมันมะพร้าวอาจไม่เหมาะกับธาตุในร่างกาย 

 3. บำรุงกำลัง 

          น้ำมันมะพร้าวนั้นกินแล้วย่อยง่าย ร่างกายดูดซึมไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญได้ทันที อีกทั้งกินแล้วอิ่มนาน จึงทำให้ร่างกายมีกำลังเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงถูกนำไปบำรุงกำลังแก่นักกีฬาทั้งแบบชงดื่ม และแบบแท่ง รวมถึงเป็นอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุด้วย 

 4. ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคกลุ่มเสื่อม 

          น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) จึงช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคกลุ่มเสื่อมต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคตับ และโรคไต 

 5. บำรุงกระดูก 

          สารอาหารในน้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อความ­แข็งแรงของกระดูก ได้แก่ แคลเซียม และแมกนีเซียม จึงช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ไม่ให้เปราะ แตกหักง่าย 

 6. บำรุงครรภ์ 

          น้ำมันมะพร้าวถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อคุณแม่และทารกน้อยในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณแม่รับประทานน้ำมันมะพร้าวในช่วงตั้­งครรภ์ ก็จะช่วยให้ทารกมีภูมิคุ้มกันที่ดี และเป็นการเพิ่มคุณค่าของน้ำนมแม่อีกด้วย เพราะในน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยกรดลอริก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ในน้ำนมแม่ นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม ที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมทั้งป้องกันภาวะกระดูกพรุน หรือการสูญเสียแคลเซียมของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์อีกด้วย 

 7. ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น 

          ในน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยกรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลาย การรับประทานน้ำมันมะพร้าวติดต่อกันทุกวันในปริมาณเพียงเล็กน้อ­ยจะช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ลดความเครียด และอาการอ่อนเพลียได้ด้วย 

 8. ลดการอักเสบและติดเชื้อ 

          น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อได้ เพราะกรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวจะถูกเปลี่ยนเป็น สารมอโนลอริน (monolaurin) มีคุณสมบัติสร้างภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย ถือเป็นเป็นทั้งยาปฏิชีวนะธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยจ­ากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่เริม คางทูม เจ็บคอ 

 9. บำรุงสุขภาพในช่องปาก 

          น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก อันเป็นสาเหตุให้เกิดคราบพลัคที่จะนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ภายในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ เหงือกช้ำ บวม แดง หรือเลือดออกตามไรฟัน รวมถึงอาการติดเชื้อบริเวณลำคอด้วย วิธีใช้คือนำน้ำมันมะพร้าวมาอมบ้วนปากครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 ครั้ง 

 10. ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง 

          น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวสูงถึงร้อยละ 92 ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังมีวิตามินไบโอที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งผิวหนัง 

วิธีกินน้ำมันมะพร้าว 

          ความพิเศษของน้ำมันมะพร้าวอยู่ตรงที่เราสามารถตวงกับช้อนแล้วกิ­นได้เลย หรือจะนำไปปรุงเป็นเมนูคาวหวานก็ได้ แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะกินแล้วดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภค รวมถึงต้องปรับพฤติกรรมการกินควบคู่ไปด้วย มิเช่นนั้น อาจให้ผลตรงกันข้าม 

          สำหรับวิธีการกินน้ำมันมะพร้าวที่เหมาะสมนั้น อาจยึดหลักจากน้ำหนักตัว ดังนี้ 

          - น้ำหนักตัว 30-40 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 0.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน 
          - น้ำหนักตัว 40.1-60 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน 
          - น้ำหนักตัว 60.1-80 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1.5-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน 
          - น้ำหนักตัว 80.1 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 2.5-3 ช้อนโต๊ะต่อวัน 
          - เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนชา 
          - ผู้สูงอายุรับประทานไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ 

          ทั้งนี้ การกินน้ำมันมะพร้าวภายในครั้งเดียวร่างกายอาจรับไม่ได้ ดังนั้น ควรจะแบ่งทานเป็น 3 เวลา นอกจากนี้อาจรวมถึงการนำน้ำมันมะพร้าวไปเป็นส่วนหนึ่งในการปรุงประกอบอาหาร เช่น นำไปผัดอาหารแทนน้ำมันชนิดอื่น ๆ 

          อย่างไรก็ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 


น้ำมันมะพร้าว มีข้อเสียไหม 

          ตามกลไกของร่างกายแล้ว การกินน้ำมันวันละประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะนั้น ถือเป็นปริมาณที่ร่างกายสามารถกำจัดออกได้หมด คำแนะนำส่วนใหญ่จึงถือว่าการกินน้ำมันมะพร้าววันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ เป็นปริมาณที่เหมาะสม 

          อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วยว่ารับพลังงานไขมันจากแหล่งอื่นมากน้อยแค่ไหน โดยคำแนะนำคือปริมาณบริโภคเมื่อรวมกับน้ำมันและไขมันในอาหารชนิดอื่น ๆ แล้ว ไม่เกินวันละ 3-4 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 60 กรัม ดังนั้น หากเป็นคนที่ได้รับน้ำมันและไขมันจากอาหารชนิดต่าง ๆ แล้ว 2 ช้อนโต๊ะ ก็สามารถบริโภคน้ำมันมะพร้าวได้อีกไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ หรือถ้าเป็นคนที่ทานมังสวิรัติ ไม่รับประทานนม ไข่ ชีส หรือน้ำมันอื่น ๆ ก็อาจทานน้ำมันมะพร้าวได้มากขึ้น 

          ดังนั้น ทางที่ดีควรพิจารณาจากความเหมาะสมของสุขภาพตัวเอง เพราะถ้าหากทานเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ร่างกายกำจัดออกไม่หมด ก็เกิดการสะสมได้ไม่ต่างจากไขมันประเภทอื่น 

น้ำมันมะพร้าว ทาหน้าได้ไหม 

          น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสามารถนำมาทาหน้าได้นะคะ เพียงแต่มีข้อควรรู้ในการใช้อยู่บ้าง เรามาอ่านกันดีกว่าว่า ควรใช้น้ำมันมะพร้าวทาหน้าอย่างไร ให้ได้หน้าขาวใสวิ้ง ๆ อย่างใจต้องการ 

          - ทาตอนกลางคืนดีกว่ากลางวัน เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติอุ้มแสง อาจทำให้ผิวหน้าเราคล้ำลงบ้าง แต่สีผิวก็จะสม่ำเสมอกัน เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติกระจายแสง 

          - สามารถผสมกับไนท์ครีมที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ โดยการหยดน้ำมันมะพร้าวประมาณ 1-2 หยดผสมกับไนท์ครีมที่ใช้อยู่ประจำ จะช่วยเก็บล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวยามหลับได้ดี 

          - หากเป็นคนผิวหน้ามัน และผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะยิ่งทำให้สิวขึ้นเห่อ 

          - ใช้มาร์กหน้าเพิ่มความชุ่มชื้นได้ นำสำลีชุบน้ำอุ่นบีบให้หมาด แล้วหยดน้ำมันมะพร้าวประมาณ 1-2 หยดบนสำลี เช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าโดยไม่ต้องล้างออก 

Cr.. kapook.com